ประวัติ Fly Emirates  

Fly Emirates หรือที่รู้จักในชื่อ Emirates เป็นสายการบินแห่งชาติของนครดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE) และเป็นหนึ่งในสายการบินที่ใหญ่ที่สุดและดีที่สุดในโลก ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2528 (ค.ศ. 1985)

โดยได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลดูไบ และดำเนินงานภายใต้กลุ่มบริษัท Emirates Group ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของ Investment Corporation of Dubai 

จุดเริ่มต้นของ Emirates นั้นมาจากความต้องการของรัฐบาลดูไบที่จะสร้างสายการบินประจำชาติของตัวเอง

โดยได้รับการสนับสนุนเครื่องบินสองลำจาก Pakistan International Airlines (PIA) ซึ่งเป็น Boeing 737 และ Airbus A300 เครื่องบินทั้งสองลำนี้ถูกใช้ในการเริ่มต้นเส้นทางการบินครั้งแรกจากดูไบไปยังเมืองการาจี (ปากีสถาน) และมุมไบ (อินเดีย)  

 

Emirates มีการเติบโตอย่างรวดเร็วตั้งแต่เริ่มก่อตั้ง ในช่วงต้นทศวรรษ 1990 สายการบินได้ขยายเส้นทางการบินไปยังยุโรปและเอเชีย โดยใช้ดูไบเป็นศูนย์กลางการบินที่สำคัญ ซึ่งช่วยดึงดูดนักเดินทางจากทั่วโลกให้มาใช้บริการของสายการบิน  

 

ในปี พ.ศ. 2535 (ค.ศ. 1992) Emirates ได้กลายเป็นสายการบินแรกในโลกที่ติดตั้งระบบความบันเทิงส่วนตัวบนทุกที่นั่งของเครื่องบิน ไม่ว่าจะเป็นชั้นประหยัด ชั้นธุรกิจ หรือชั้นหนึ่ง ซึ่งเป็นการสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับอุตสาหกรรมการบิน  

Emirates ได้พัฒนาจนกลายเป็นสายการบินระดับโลกด้วยการให้บริการที่มีคุณภาพสูง ทั้งในด้านความสะดวกสบาย ความตรงต่อเวลา และประสบการณ์ที่หรูหราแก่ผู้โดยสาร ปัจจุบัน Emirates

ให้บริการเส้นทางบินมากกว่า 150 จุดหมายปลายทาง ในกว่า 80 ประเทศ ทั่วโลก โดยมีฝูงบินมากกว่า 270 ลำ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเครื่องบินรุ่น Airbus A380 และ Boeing 777 

 

เครื่องบิน Airbus A380 ของ Emirates ถือเป็นสัญลักษณ์ของสายการบิน เนื่องจากเป็นเครื่องบินขนาดใหญ่ที่สุดในโลก และ Emirates เป็นสายการบินที่มีฝูงบิน A380 มากที่สุดในโลก ผู้โดยสารสามารถเพลิดเพลินไปกับสิ่งอำนวยความสะดวกสุดหรู เช่น ห้องโดยสารส่วนตัว ห้องอาบน้ำสปาบนเครื่องบิน และเลานจ์ส่วนตัวสำหรับผู้โดยสารชั้นหนึ่ง  

 

Emirates ได้รับรางวัลมากมายจากการให้บริการที่โดดเด่น เช่น Skytrax Airline of the Year หลายสมัย และรางวัลเกี่ยวกับความเป็นเลิศด้านการบริการและความสะดวกสบาย

สำหรับผู้โดยสาร นอกจากนี้ Emirates ยังเป็นผู้บุกเบิกการใช้นวัตกรรมทางเทคโนโลยีเพื่อพัฒนาประสบการณ์การเดินทาง เช่น ระบบความบันเทิงบนเครื่องบิน ICE (Information, Communication, Entertainment) ซึ่งได้รับการยอมรับว่าเป็นระบบความบันเทิงบนเครื่องบินที่ดีที่สุดในโลก  

 

Emirates เป็นสายการบินที่โดดเด่นด้านการตลาดระดับโลก โดยเป็นผู้สนับสนุนหลักให้กับทีมกีฬาและกิจกรรมระดับโลกมากมาย เช่น สโมสรฟุตบอล Arsenal, Real Madrid, AC Milan และ Paris Saint-Germain รวมถึงการเป็นผู้สนับสนุนการแข่งขันกีฬา เช่น การแข่งขันเทนนิสและรักบี้  

ในช่วงการระบาดของโควิด-19 Emirates ได้เผชิญกับความท้าทายอย่างหนัก แต่สายการบินก็สามารถปรับตัวได้อย่างรวดเร็ว โดยการเพิ่มมาตรการสุขอนามัยและความปลอดภัยสูงสุด พร้อมทั้งพัฒนาแผนฟื้นฟูกิจการอย่างมีประสิทธิภาพ 

 

ขอบคุณผู้สนับสนุนโดย      คาสิโนเวียดนาม

ประวัติ เกาะเซ็นทิเนลเหนือ (North Sentinel Island)

เกาะเซ็นทิเนลเหนือ  เป็นเกาะหนึ่งในหมู่เกาะอันดามันในอ่าวเบงกอล ซึ่งอยู่ภายใต้การปกครองของประเทศอินเดีย เกาะนี้มีพื้นที่ประมาณ 72 ตารางกิโลเมตร และมีลักษณะเป็นป่าเขียวชอุ่ม

รายล้อมด้วยหาดทรายและแนวปะการัง ความโดดเด่นของเกาะเซ็นทิเนลเหนืออยู่ที่ชนพื้นเมืองที่เรียกว่า “ชาวเซ็นทิเนล” ซึ่งอาศัยอยู่บนเกาะนี้มานานนับพันปี ชาวเซ็นทิเนลถูกจัดว่าเป็นหนึ่งในชนเผ่าที่ถูกตัดขาดจากโลกภายนอกมากที่สุด และยังคงมีวิถีชีวิตที่ไม่เปลี่ยนแปลงจากอดีต

 

ชนพื้นเมืองเซ็นทิเนลเป็นกลุ่มคนที่ปฏิเสธการติดต่อจากภายนอกและแสดงความไม่เป็นมิตรกับผู้ที่พยายามเข้าใกล้เกาะ ชนเผ่านี้ถือเป็นหนึ่งในกลุ่มชนเผ่าที่มีความเป็นตัวเองสูงที่สุดในโลก

พวกเขายังคงใช้ชีวิตแบบดั้งเดิม โดยการล่าสัตว์และหาอาหารจากป่าและทะเล แม้ว่าโลกภายนอกจะพยายามติดต่อหรือทำการวิจัยเกี่ยวกับชาวเซ็นทิเนล แต่ทุกความพยายามกลับล้มเหลวเพราะชาวเซ็นทิเนลจะใช้ธนูและหอกไล่ล่าผู้บุกรุกออกจากเกาะ

 

มีประวัติบันทึกการพยายามเข้าถึงเกาะเซ็นทิเนลตั้งแต่ศตวรรษที่ 19 ในปี ค.ศ. 1867 เมื่อเรือขนสินค้าของอินเดียเกิดอุบัติเหตุใกล้เกาะ

ผู้รอดชีวิตเล่าว่าชาวเซ็นทิเนลได้เข้ามาโจมตีพวกเขา และในช่วงหลายปีที่ผ่านมา นักสำรวจ เจ้าหน้าที่รัฐบาล และนักมนุษยวิทยาหลายคนพยายามเข้ามาศึกษาและช่วยเหลือชนเผ่านี้ แต่ล้วนแต่ไม่ประสบความสำเร็จ

ในปี ค.ศ. 1974 มีทีมถ่ายทำสารคดีของ National Geographic ที่พยายามเดินทางไปยังเกาะนี้เพื่อบันทึกภาพชนเผ่าที่อาศัยอยู่บนเกาะ

ทีมงานถูกโจมตีด้วยธนูและต้องหนีออกจากเกาะอย่างรวดเร็ว ต่อมารัฐบาลอินเดียได้ออกกฎหมายเพื่อปกป้องชาวเซ็นทิเนล โดยประกาศให้เกาะเซ็นทิเนลเหนือเป็นพื้นที่ห้ามเข้า และมีการตั้งเขตกันชนรอบเกาะเป็นระยะทางประมาณ 5 กิโลเมตร

 

เหตุการณ์ที่เป็นข่าวใหญ่เกิดขึ้นในปี ค.ศ. 2018 เมื่อชายชาวอเมริกันชื่อ จอห์น อัลเลน เชา (John Allen Chau) เดินทางไปยังเกาะเซ็นทิเนลเหนือเพื่อเผยแผ่ศาสนา เขาถูกชนเผ่าเซ็นทิเนลสังหาร

ทำให้เกิดการถกเถียงในวงกว้างเกี่ยวกับความจำเป็นในการปกป้องชนเผ่านี้จากโลกภายนอกและความเสี่ยงที่ชนเผ่าจะได้รับเชื้อโรคจากคนภายนอกที่อาจส่งผลร้ายแรงต่อชีวิตของพวกเขา

 

รัฐบาลอินเดียยังคงถือว่าการปกป้องชนเผ่าเซ็นทิเนลเป็นเรื่องสำคัญ เนื่องจากการติดต่อจากภายนอกอาจทำให้ชนเผ่านี้เสี่ยงต่อการติดเชื้อโรคที่พวกเขาไม่มีภูมิคุ้มกัน

นอกจากนี้ ชนเผ่าเซ็นทิเนลยังถือเป็นส่วนหนึ่งของมรดกทางวัฒนธรรมและมนุษยชาติที่ต้องได้รับการอนุรักษ์ แม้ว่าพวกเขาจะเลือกที่จะไม่ติดต่อกับโลกภายนอกก็ตาม

เกาะเซ็นทิเนลเหนือยังคงเป็นปริศนาในหลายด้าน ทั้งเรื่องของวัฒนธรรมและวิถีชีวิตที่ยังไม่ได้รับการสำรวจอย่างละเอียด แต่เป็นที่รู้กันดีว่าชนเผ่านี้เป็นหนึ่งในชนเผ่าที่ปกป้องตนเองจากการแทรกแซงของโลกภายนอกอย่างสุดชีวิต

 

สนับสนุนโดย    ผู้สูงอายุควรใช้เครื่องช่วยฟังแบบไหน

ตำนานคืออะไร สามารถใช้ในการศึกษาประวัติศาสตร์ได้ยังไง

ตำนานหมายถึง เรื่องราวหรือคำบอกเล่าที่เล่าสืบทอดต่อกันมาเป็นเวลานาน

โดยมักมีเนื้อหาที่ผสมผสานระหว่างความจริงและจินตนาการ ซึ่งบางครั้งอาจเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริง บุคคลสำคัญ หรือปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่ยิ่งใหญ่

ตำนานมักถูกเล่าผ่านชุมชน วัฒนธรรม หรือศาสนา โดยมีจุดประสงค์หลักในการให้ความหมายต่อเหตุการณ์หรือเรื่องราวในอดีต และยังใช้ในการถ่ายทอดค่านิยม ความเชื่อ และแนวคิดที่สำคัญของสังคม

 

ตัวอย่างของตำนานที่รู้จักกันดี เช่น ตำนานพญานาค ตำนานเมืองลับแล หรือตำนานที่เกี่ยวกับการสร้างบ้านเมือง

ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์ที่เล่าเรื่องราวการกำเนิดของสถาปัตยกรรม หรืออาณาจักรโบราณ ตำนานเหล่านี้มีความสำคัญต่อการสร้างความเป็นเอกลักษณ์และความเชื่อมโยงทางวัฒนธรรมของชุมชนและประเทศ

 

ตำนานมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการศึกษาประวัติศาสตร์ แม้ว่าจะไม่ได้เป็นหลักฐานทางประวัติศาสตร์ที่ชัดเจนเสมอไป แต่ตำนานมักสะท้อนถึงความเชื่อมโยงของผู้คนกับสถานที่หรือเหตุการณ์ในอดีต

ตำนานอาจถูกบอกเล่าผ่านการปากต่อปากหรือการบันทึกลงในเอกสารโบราณ ดังนั้น นักประวัติศาสตร์จึงต้องมีความระมัดระวังในการตีความตำนานเพื่อค้นหาความจริงหรือข้อเท็จจริงที่ซ่อนอยู่

 

หนึ่งในวิธีที่ตำนานสามารถนำมาใช้ในการศึกษาประวัติศาสตร์ได้คือการเป็นแนวทางหรือจุดเริ่มต้นในการค้นหาหลักฐานทางประวัติศาสตร์ นักประวัติศาสตร์สามารถใช้ตำนานในการระบุสถานที่ทางโบราณคดีหรือเหตุการณ์ที่เกี่ยวข้องในอดีต

ตำนานอาจนำไปสู่การค้นพบโบราณสถานใหม่ ๆ เช่น วัดโบราณ หรือเมืองที่สูญหายไปตามกาลเวลา ซึ่งจะช่วยขยายความเข้าใจเกี่ยวกับวัฒนธรรมและการดำรงชีวิตของผู้คนในสมัยก่อน

 

อีกวิธีหนึ่งที่ตำนานมีบทบาทในประวัติศาสตร์คือการสะท้อนถึงค่านิยมและวิถีชีวิตของคนในยุคนั้น

การศึกษาตำนานจะช่วยให้นักวิชาการสามารถเข้าใจความเชื่อทางศาสนา ค่านิยมทางสังคม และการปฏิบัติที่เกี่ยวข้องกับธรรมชาติ ตำนานมักมีเรื่องราวเกี่ยวกับเทพเจ้า สิ่งศักดิ์สิทธิ์ หรือสัตว์ประหลาด ที่สื่อถึงความเคารพธรรมชาติและสิ่งที่มองไม่เห็นซึ่งมีอิทธิพลต่อชีวิตของผู้คน

 

ตำนานยังมีความสำคัญในการสร้างอัตลักษณ์และความภาคภูมิใจในท้องถิ่น เรื่องราวที่ถ่ายทอดผ่านตำนานมักเป็นสัญลักษณ์ของความเชื่อมโยง

กับบรรพบุรุษหรือเหตุการณ์สำคัญในอดีต เช่น ตำนานเกี่ยวกับผู้ก่อตั้งเมืองหรือวีรบุรุษที่ปกป้องบ้านเมืองในยามยากลำบาก ทำให้ประชาชนในปัจจุบันยังคงรู้สึกผูกพันกับเรื่องราวเหล่านี้และรักษาเอกลักษณ์ของชุมชนไว้

 

อย่างไรก็ตาม การใช้ตำนานในการศึกษาประวัติศาสตร์ยังต้องอาศัยการวิเคราะห์และการตรวจสอบหลักฐานทางวิทยาศาสตร์หรือเอกสารโบราณประกอบเพื่อให้ได้มุมมองที่ชัดเจนยิ่งขึ้น นักประวัติศาสตร์จึงมักใช้ตำนานควบคู่กับหลักฐานทางโบราณคดี เอกสารโบราณ หรือการศึกษาลักษณะทางภูมิศาสตร์

 

สรุปแล้ว ตำนานเป็นเครื่องมือที่มีคุณค่าในการศึกษาประวัติศาสตร์ เพราะไม่เพียงแต่สะท้อนถึงความเชื่อและค่านิยมของผู้คนในอดีต

แต่ยังสามารถเป็นแนวทางในการค้นหาหลักฐานทางประวัติศาสตร์ที่มีอยู่จริงได้ ทั้งนี้ การตีความตำนานต้องอาศัยความระมัดระวังและการตรวจสอบข้อเท็จจริงร่วม

 

สนับสนุนโดย      เครื่องช่วยฟังศิริราช

จุดเริ่มต้นและประวัติการนำพระสงฆ์มาสวดในงานศพ

การนำพระสงฆ์มาสวดในงานศพเป็นประเพณีที่มีรากฐานมาจากคติความเชื่อและวิถีชีวิตของชาวพุทธมาเป็นเวลานาน

โดยมีความสัมพันธ์กับการเคารพนับถือพระพุทธศาสนาและการสร้างบุญกุศลให้แก่ผู้เสียชีวิต จุดเริ่มต้นของประเพณีนี้สามารถสืบย้อนไปถึงยุคสมัยที่พระพุทธศาสนาถูกเผยแผ่ไปในภูมิภาคต่าง ๆ ในเอเชีย รวมทั้งประเทศไทย ซึ่งมีการผสมผสานระหว่างความเชื่อพื้นเมืองกับหลักคำสอนทางศาสนา

 

ในทางพุทธศาสนา ความตายถูกมองว่าเป็นเรื่องปกติและเป็นส่วนหนึ่งของวัฏจักรแห่งการเกิด แก่ เจ็บ และตาย

โดยการนำพระสงฆ์มาสวดในงานศพนั้นมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างบุญกุศลให้กับผู้ล่วงลับ และช่วยส่งเสริมจิตใจของผู้ที่ยังมีชีวิตอยู่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งครอบครัวและญาติพี่น้องที่อาจกำลังอยู่ในความทุกข์จากการสูญเสียคนที่รัก

 

การสวดในงานศพมักจะเป็นการสวดพระอภิธรรม ซึ่งเป็นบทสวดที่มีความสำคัญในศาสนาพุทธ โดยเฉพาะนิกายเถรวาท บทสวดนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อชี้ให้เห็นถึงความไม่เที่ยงของชีวิต

การสวดพระอภิธรรมในงานศพเชื่อกันว่าจะช่วยให้วิญญาณของผู้ล่วงลับได้เดินทางไปยังภพภูมิที่ดีขึ้น รวมทั้งช่วยเสริมสร้างบุญกุศลให้แก่ทั้งผู้เสียชีวิตและผู้ที่ได้ยินบทสวด

นอกจากนี้ การสวดมนต์ยังเป็นวิธีหนึ่งที่ช่วยให้ผู้ที่เข้าร่วมงานศพได้มีโอกาสในการทำสมาธิและไตร่ตรองถึงความไม่แน่นอนของชีวิต ซึ่งเป็นการสะท้อนให้เห็นถึงความสัมพันธ์ระหว่างชีวิตและความตายตามหลักธรรมของพระพุทธเจ้า

การสวดในงานศพยังเป็นการสร้างบรรยากาศแห่งความสงบและความเคารพต่อผู้วายชนม์ พระสงฆ์จะทำหน้าที่เป็นผู้แทนในการส่งเสริมบุญกุศล

และเป็นเครื่องเตือนใจให้แก่ผู้ที่อยู่เบื้องหลังให้ตระหนักถึงความไม่เที่ยงและความทุกข์ที่มาจากการสูญเสีย บทสวดที่ใช้ในพิธีกรรมศพนั้นจะช่วยให้เกิดความรู้สึกสงบใจและคลายทุกข์ไปพร้อมกับการปล่อยวางสิ่งต่าง ๆ ที่เป็นเครื่องผูกพันกับผู้เสียชีวิต

 

ในสังคมไทย พระสงฆ์มีบทบาทสำคัญในหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นการให้คำสอน การเป็นที่พึ่งทางจิตใจ รวมถึงการเป็นผู้นำในการจัดการพิธีกรรมต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับชีวิตและความตาย การสวดมนต์ในงานศพจึงเป็นอีกหนึ่งการแสดงออกถึงความเคารพนับถือและการสร้างความสัมพันธ์ทางจิตวิญญาณระหว่างผู้เสียชีวิตกับผู้ที่ยังอยู่

 

นอกจากนี้ การสวดในงานศพยังมีผลในการช่วยสร้างเสริมความเข้มแข็งให้แก่ชุมชน เนื่องจากเป็นการรวมตัวของญาติพี่น้อง เพื่อนฝูง และคนในชุมชนเพื่อมาร่วมกันในพิธีกรรม ซึ่งเป็นการแสดงออกถึงความสามัคคีและการสนับสนุนซึ่งกันและกันในช่วงเวลาที่มีความทุกข์ใจ

 

สนับสนุนเนื้อหานี้โดย      เครื่องช่วยฟัง มีไว้ทำอะไร

ประจำเดือนมาช้า: อันตรายหรือไม่?

ประจำเดือนมาช้าเป็นอาการที่พบได้ในผู้หญิงหลายคนในบางช่วงชีวิต ซึ่งอาจเกิดจากปัจจัยที่ไม่เป็นอันตราย เช่น ความเครียด หรือการเปลี่ยนแปลงของวิถีชีวิต

แต่ในบางกรณีอาจเป็นสัญญาณของปัญหาสุขภาพที่ต้องได้รับการวินิจฉัยและดูแลอย่างเหมาะสม การทำความเข้าใจเกี่ยวกับสาเหตุของประจำเดือนมาช้า และการพิจารณาว่าอาการเหล่านี้เสี่ยงต่อสุขภาพหรือไม่ จะช่วยให้คุณดูแลตัวเองได้อย่างมั่นใจ

 

สาเหตุทั่วไปของประจำเดือนมาช้า

  1. ความเครียด (Stress): 

   ความเครียดส่งผลต่อการทำงานของฮอร์โมนในสมองที่ควบคุมการตกไข่และรอบเดือน ทำให้ประจำเดือนมาช้าหรือขาดไปชั่วคราว

 

  1. น้ำหนักตัวที่เปลี่ยนแปลง:  

   – น้ำหนักลดลงมากเกินไปหรือการเป็นโรคอะนอเร็กเซีย (Anorexia) สามารถรบกวนการตกไข่  

   – น้ำหนักที่เพิ่มขึ้นเร็ว เช่น ภาวะโรคอ้วน ก็สามารถส่งผลให้รอบเดือนผิดปกติได้

 

  1. การออกกำลังกายหนักเกินไป:

   นักกีฬาหรือผู้ที่ออกกำลังกายอย่างหนัก อาจพบว่าประจำเดือนมาช้าหรือไม่มาเลย เนื่องจากร่างกายมองว่าพลังงานที่ใช้ไม่เพียงพอสำหรับการตั้งครรภ์

 

  1. ผลข้างเคียงของยาคุมกำเนิดหรือฮอร์โมน: 

   ยาคุมกำเนิดบางชนิดอาจทำให้ประจำเดือนมาช้าในช่วงที่ร่างกายปรับตัว หรือแม้กระทั่งทำให้ไม่มีประจำเดือนเลยในบางกรณี

 

  1. ภาวะถุงน้ำรังไข่หลายใบ (Polycystic Ovary Syndrome – PCOS): 

   PCOS เป็นภาวะที่ฮอร์โมนแอนโดรเจนในร่างกายสูงกว่าปกติ ส่งผลให้รอบเดือนผิดปกติ น้ำหนักเพิ่ม และมีสิวมากขึ้น

 

  1. ความผิดปกติของต่อมไทรอยด์:  

   ต่อมไทรอยด์ที่ทำงานผิดปกติ (ทั้งไทรอยด์เป็นพิษหรือไทรอยด์ทำงานน้อย) อาจส่งผลต่อรอบเดือน

ประจำเดือนมาช้าถือว่าอันตรายหรือไม่?

การที่ประจำเดือนมาช้าหรือไม่มาไม่จำเป็นต้องเป็นอันตรายเสมอไป หากเกิดจากปัจจัยชั่วคราว เช่น ความเครียดหรือการเปลี่ยนแปลงของวิถีชีวิต แต่ในบางกรณี อาจบ่งบอกถึงปัญหาสุขภาพที่ร้ายแรง ดังนี้:

  1. หากขาดประจำเดือนนานกว่า 3 เดือนติดต่อกัน (Amenorrhea):  

   อาจเกิดจากโรคทางระบบสืบพันธุ์ เช่น PCOS หรือปัญหาเกี่ยวกับต่อมใต้สมอง

 

  1. อาการอื่นที่มาพร้อม:  

   – น้ำหนักเพิ่มหรือลดผิดปกติ  

   – ปวดท้องรุนแรง  

   – ตกขาวผิดปกติหรือมีเลือดออกผิดปกติ  

   หากมีอาการเหล่านี้ร่วมด้วย ควรปรึกษาแพทย์

 

วิธีจัดการเมื่อประจำเดือนมาช้า

  1. ตรวจการตั้งครรภ์:

   หากมีเพศสัมพันธ์และประจำเดือนมาช้า ควรตรวจการตั้งครรภ์เพื่อความแน่ใจ

  1. ดูแลสุขภาพ:

   – ลดความเครียดด้วยการออกกำลังกายเบา ๆ การนอนหลับให้เพียงพอ และการทำสมาธิ  

   – รับประทานอาหารที่มีประโยชน์และควบคุมน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม  

  1. ปรึกษาแพทย์: 

   หากประจำเดือนมาช้าติดต่อกันนานหรือมีอาการผิดปกติ ควรพบแพทย์เพื่อวินิจฉัยหาสาเหตุ และรับการรักษาที่เหมาะสม

 

ประจำเดือนมาช้าไม่จำเป็นต้องเป็นอันตรายเสมอไป โดยอาจเกิดจากปัจจัยที่ไม่รุนแรง เช่น ความเครียด หรือการเปลี่ยนแปลงของร่างกาย แต่หากมีอาการอื่นร่วม หรือขาดประจำเดือนนานเกิน 3 เดือน

ควรปรึกษาแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุและรับการรักษาอย่างเหมาะสม การดูแลสุขภาพและการปรับสมดุลของร่างกายจะช่วยให้รอบเดือนกลับมาปกติและลดความเสี่ยงของปัญหาสุขภาพในอนาคต

 

สนับสนุนเรื่องราวโดย      เครื่องช่วยฟังยี่ห้อไหนดี

กรุงเทพฯ กับการเป็นเมืองศิลปะ 

กรุงเทพมหานครไม่เพียงแต่เป็นเมืองหลวงของประเทศไทยที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม และความหลากหลายทางสังคมเท่านั้น

แต่ยังได้รับการยอมรับในระดับสากลว่าเป็นเมืองแห่งศิลปะที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว กรุงเทพฯ โดดเด่นในเรื่องของการผสมผสานศิลปะดั้งเดิมเข้ากับศิลปะร่วมสมัย และยังเป็นแหล่งสร้างแรงบันดาลใจให้กับศิลปินทั้งในประเทศและต่างประเทศ  

 

ศิลปะในประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของกรุงเทพฯ  

กรุงเทพฯ เป็นแหล่งรวมของศิลปะและวัฒนธรรมไทยที่สะท้อนผ่านสถาปัตยกรรม วัดวาอาราม และพระราชวังต่าง ๆ เช่น วัดพระแก้ว พระบรมมหาราชวัง และวัดอรุณราชวราราม

ซึ่งล้วนเป็นตัวแทนของศิลปะไทยชั้นสูงที่มีความประณีตและงดงาม นอกจากนี้ ศิลปะพื้นบ้าน เช่น การแสดงโขน การเล่นหุ่นกระบอก และการรำไทย ก็ยังคงสืบทอดและปรากฏให้เห็นในเทศกาลสำคัญต่าง ๆ ในกรุงเทพฯ  

 

กรุงเทพฯ กับศิลปะร่วมสมัยและสตรีทอาร์ต  

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา กรุงเทพฯ ได้กลายเป็นศูนย์กลางของศิลปะร่วมสมัยที่เติบโตอย่างรวดเร็ว พื้นที่แสดงศิลปะสมัยใหม่และแกลเลอรีจำนวนมากเกิดขึ้นในย่านต่าง ๆ เช่น Warehouse 30, Bangkok Art and Culture Centre (BACC), River City Bangkok และ TCDC

ซึ่งเปิดโอกาสให้ศิลปินรุ่นใหม่ได้แสดงผลงานที่สร้างสรรค์และแหวกแนว นอกจากนี้ สตรีทอาร์ต (Street Art) ยังเป็นอีกหนึ่งเสน่ห์ที่ทำให้กรุงเทพฯ ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวและผู้รักศิลปะ  

 

ย่าน เจริญกรุง และ ตลาดน้อย เป็นตัวอย่างที่ดีของการผสมผสานศิลปะร่วมสมัยเข้ากับวิถีชีวิตชุมชน

พื้นที่เหล่านี้เต็มไปด้วยผลงานสตรีทอาร์ตที่มีความหมายเชิงสังคมและวัฒนธรรม อีกทั้งยังช่วยเพิ่มความน่าสนใจให้กับเมืองและดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก  

เทศกาลศิลปะในกรุงเทพฯ 

กรุงเทพฯ ยังเป็นเจ้าภาพจัดงานเทศกาลศิลปะระดับนานาชาติหลายงาน เช่น Bangkok Design Week, Bangkok Art Biennale และ Nuit Blanche Bangkok

ซึ่งช่วยเสริมสร้างภาพลักษณ์ของกรุงเทพฯ ในฐานะเมืองศิลปะระดับโลก เทศกาลเหล่านี้ไม่เพียงแต่ส่งเสริมการท่องเที่ยว แต่ยังเปิดโอกาสให้ศิลปินทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติเข้าร่วมแสดงผลงานและแลกเปลี่ยนความคิดสร้างสรรค์  

 

ศิลปะกับการพัฒนาเมือง 

ศิลปะในกรุงเทพฯ ไม่ได้เป็นเพียงแค่การแสดงออกทางวัฒนธรรมหรือความสวยงาม แต่ยังมีบทบาทสำคัญในการพัฒนาเมืองให้มีชีวิตชีวาและสร้างแรงบันดาลใจให้คนรุ่นใหม่ ย่านเก่าแก่ที่ได้รับการพัฒนา

โดยใช้ศิลปะเข้ามาเติมเต็ม เช่น ย่านบางรัก และ คลองสาน แสดงให้เห็นว่า ศิลปะสามารถเปลี่ยนพื้นที่เสื่อมโทรมให้กลับมาคึกคักและเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีเอกลักษณ์  

 

ศิลปะสร้างตัวตนและอัตลักษณ์ของกรุงเทพฯ

ศิลปะช่วยให้กรุงเทพฯ มีตัวตนและอัตลักษณ์ที่โดดเด่นในระดับโลก ความหลากหลายของงานศิลปะในกรุงเทพฯ ทั้งแบบดั้งเดิมและสมัยใหม่

สะท้อนถึงจิตวิญญาณที่สร้างสรรค์และไม่หยุดนิ่งของเมืองแห่งนี้ นักท่องเที่ยวที่มาเยือนกรุงเทพฯ มักจะหลงใหลในความงดงามของวัดวาอาราม และในขณะเดียวกันก็ตื่นเต้นกับผลงานศิลปะร่วมสมัยที่แฝงไปด้วยเรื่องราวและความคิดสร้างสรรค์  

 

กรุงเทพฯ จึงไม่ได้เป็นเพียงเมืองหลวงที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม แต่ยังเป็นศูนย์กลางของศิลปะที่มีชีวิตชีวาและเปี่ยมไปด้วยพลังสร้างสรรค์ ศิลปะในกรุงเทพฯ

ไม่เพียงแต่สร้างความสวยงามให้กับเมือง แต่ยังช่วยพัฒนาเศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรม ทำให้กรุงเทพฯ เป็นเมืองศิลปะที่มีเสน่ห์และเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่ยากจะหาได้จากที่อื่นในโลก 

 

สนับสนุนโดย    คาสิโนเวียดนาม

แนะนำสถานที่นั่งดื่มดริ้งที่เด็ดๆ ที่ฮานอย

ใครมองหาสถานที่นั่งดื่มดริ้งกับกลุ่มเพื่อน ณ ฮานอย  เรามีมาแนะนำสถานที่เด็ดๆ ต่อไปนี้  

1.เบซนีส 1920   ก้าวเข้าสู่ Beeznees ในยุค 1920

อัญมณีที่ซ่อนอยู่ในกรุงฮานอย ที่ซึ่งการเดินทางย้อนเวลารอคอยอยู่ ค็อกเทลบาร์สุดพิเศษแห่งนี้ตั้งอยู่ใกล้กับบาร์แห่งใหม่ Ip club รวบรวมแก่นแท้ของทศวรรษ 1920

ด้วยธีมวินเทจและเครื่องดื่มค็อกเทลที่สร้างสรรค์และคลาสสิกที่คัดสรรมาอย่างไร้ที่ติ ไม่ว่าจะอยู่กับเพื่อน เพื่อนร่วมงาน หรือคนที่คุณรัก Beeznees 1920s มอบประสบการณ์หลีกหนีจากความวุ่นวายในเมืองอันน่าหลงใหล  ลิ้มรสค็อกเทลเหนือกาลเวลา ดื่มด่ำไปกับบรรยากาศ และปล่อยให้เสียงเพลงพาคุณไป

ร้านบรรยากาศสบาย ๆ แห่งนี้ซ่อนตัวอยู่บนถนน Phung Hung Street สร้างความประหลาดใจด้วยทางเข้าที่ซ่อนอยู่ โดยคุณสามารถดันชั้นวางหนังสือไปด้านข้างแล้ว

ขึ้นไปชั้นบนไปยังบาร์ที่น่าหลงใหลและเตาผิงอันเงียบสงบ เยี่ยมชม Beeznees 1920s บนถนน Ta Hien เพื่อเดินทางสู่เสียงคำรามของทศวรรษ 1920 ที่ซึ่งการตกแต่งแบบวินเทจและเครื่องดื่มชั้นเลิศรออยู่    

 

2.El Sol – ร้านอาหารและเครื่องดื่มผสมเครื่องดื่ม  

ก้าวเข้าสู่ร้าน El Sol – Eatery & Mixology จุดหมายปลายทางสุดพิเศษท่ามกลางบาร์ที่ดีที่สุดในฮานอย ซึ่งตั้งอยู่ในย่านฮว่านเกี๋ยม

คุณจะค้นพบส่วนผสมอันน่าหลงใหลของไวน์อันเปี่ยมล้นและพื้นที่ทางศิลปะอันน่าหลงใหลที่นี่ ร้านอาหารและบาร์ผสมเครื่องดื่มที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวในตัวเมืองฮานอยแห่งนี้ นำเสนอการผสมผสานที่ลงตัวของไวน์อะโรมาติก

และดนตรีที่ปลุกเร้าจิตวิญญาณ สร้างบรรยากาศที่ไม่อาจลืมเลือนสำหรับคนที่คุณรักและเพื่อนรัก    ที่ El Sol ดื่มด่ำไปกับบรรยากาศสุดมันส์ที่ดนตรีเป็นตัวกำหนดช่วงเวลาที่น่าทึ่ง

ดื่มด่ำกับค็อกเทลอันเป็นเอกลักษณ์ที่บาร์ไวน์และลิ้มลองรสชาติของอาหารที่ปรุงอย่างพิถีพิถัน El Sol – Eatery & Mixology คือสวรรค์ของบาร์ในฮานอยสำหรับผู้ชื่นชอบไวน์และผู้รักดนตรี    

 

3.Leo’s – ค็อกเทล & โค   ก้าวเข้าสู่ Leo’s Cocktails & Co เลานจ์บาร์บรรยากาศสบาย ๆ

และคลาสสิกริมทะเลสาบ Hoan Kiem อันงดงาม ร้านยอดนิยมในท้องถิ่นในฮานอยแห่งนี้ให้บริการเครื่องดื่มทำมือที่น่าประทับใจหลากหลายรายการ และบรรยากาศที่อบอุ่นและน่าดึงดูดใจ

จะพาคุณไปยังพื้นที่ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากยุโรปเหนือกาลเวลา ลิ้มลองอาหารที่มีให้เลือกมากมาย เหมาะสำหรับการพบปะสังสรรค์กับเพื่อนฝูงและคนที่คุณรักอย่างใกล้ชิด

  ค้นพบ Leo’s Cocktails & Co อัญมณีที่ซ่อนอยู่ในบ้านโบราณของฮานอย สัมผัสประสบการณ์ศิลปะการผสมเครื่องดื่มด้วยวัตถุดิบสดใหม่จากท้องถิ่น ด้วยบรรยากาศในช่วงทศวรรษปี ค.ศ. 1920 และสุราคุณภาพสูง Leo’s

จึงเป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับการพักผ่อนในช่วงเวลาแห่งความสุข ตั้งอยู่ใกล้กับ The Summit Bar ยอดนิยม ไวน์ผสมเครื่องเทศโฮมเมดอันเลื่องชื่อของพวกเขาจะนำคุณไปสู่ยุคอดีตในโอเอซิสที่ผ่อนคลายแห่งนี้   

 

สนับสนุนโดย    เครื่องช่วยฟังอย่างดี

ปวดเข่าหายขาดได้ เพียงทำ 3 สิ่งนี้ให้เป็นนิสัย

อาการปวดเข่า เป็นปัญหาที่พบได้บ่อยในคนทุกเพศทุกวัย โดยเฉพาะผู้ที่มีน้ำหนักตัวมาก หรือผู้สูงอายุที่มีการเสื่อมของข้อเข่าตามวัย การดูแลเข่าให้แข็งแรงและลดอาการปวดไม่ใช่เรื่องยาก หากเริ่มต้นด้วยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในชีวิตประจำวันให้เหมาะสม

ดังนั้นหากคุณกำลังประสบปัญหานี้ การปฏิบัติตาม 3 วิธีต่อไปนี้สามารถช่วยให้อาการปวดเข่าบรรเทาและอาจหายขาดได้ในระยะยาว

 

  1. หลีกเลี่ยงการเดินขึ้น-ลงบันไดบ่อยๆ

การเดินขึ้น-ลงบันไดเป็นกิจกรรมที่สร้างแรงกดดันอย่างมากต่อข้อเข่า โดยเฉพาะเมื่อต้องเดินขึ้น-ลงในระยะทางยาวหรือต่อเนื่อง หากจำเป็นต้องใช้บันได ควรพยายามลดจำนวนครั้งให้น้อยที่สุด

หรือใช้ลิฟต์หากมีให้บริการ นอกจากนี้ ควรหลีกเลี่ยงการเดินขึ้น-ลงบันไดอย่างรวดเร็ว เพราะอาจเพิ่มโอกาสเกิดการบาดเจ็บได้ การปฏิบัติตามข้อนี้จะช่วยลดภาระที่ข้อเข่าต้องรับและลดอาการปวดในระยะยาว

 

  1. หลีกเลี่ยงการนั่งพื้น

การนั่งพื้นโดยเฉพาะในท่าขัดสมาธิ หรือนั่งพับเพียบ อาจทำให้ข้อเข่าโค้งงอมากเกินไป ส่งผลให้เกิดแรงกดดันต่อกระดูกอ่อนในข้อเข่า ซึ่งในระยะยาวอาจทำให้เกิดการเสื่อมสภาพของข้อได้

ควรเลือกนั่งบนเก้าอี้ที่มีพนักพิงและความสูงที่เหมาะสมกับร่างกาย เพื่อให้เข่าอยู่ในตำแหน่งที่สบายและลดแรงกดดัน

การเปลี่ยนพฤติกรรมนี้จะช่วยลดการบาดเจ็บของข้อเข่า และป้องกันการเสื่อมสภาพที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต

 

  1. รักษาน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ

น้ำหนักตัวที่มากเกินไปเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ทำให้ข้อเข่าต้องรับน้ำหนักมากกว่าปกติ โดยเฉพาะเวลาที่เดินหรือยืน

น้ำหนักตัวที่เกินเกณฑ์อาจเพิ่มแรงกดดันต่อข้อเข่า ทำให้เกิดอาการปวดหรือการอักเสบได้ง่าย การลดน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์มาตรฐานด้วยการเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ เช่น ผัก ผลไม้ โปรตีนที่มีไขมันต่ำ

และการออกกำลังกายเบาๆ เช่น การว่ายน้ำหรือการเดินบนพื้นเรียบ จะช่วยลดภาระของข้อเข่าและทำให้อาการปวดดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

นอกจากการปฏิบัติตาม 3 วิธีดังกล่าว การออกกำลังกายเพื่อเสริมสร้างกล้ามเนื้อรอบข้อเข่าก็มีส่วนสำคัญ เช่น การยืดกล้ามเนื้อขา การฝึกโยคะ หรือการทำกายภาพบำบัด

เพื่อเพิ่มความแข็งแรงและความยืดหยุ่นของข้อเข่า การปรึกษาแพทย์หากอาการปวดไม่ลดลงก็เป็นสิ่งสำคัญเพื่อวินิจฉัยและรับการรักษาที่เหมาะสม

การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเล็กๆ น้อยๆ เหล่านี้ แม้ดูเหมือนเป็นเรื่องธรรมดา แต่มีผลอย่างมากต่อสุขภาพข้อเข่า หากคุณสามารถปฏิบัติได้อย่างต่อเนื่อง นอกจากจะช่วยให้อาการปวดเข่าหายขาดแล้ว ยังช่วยให้เข่ามีสุขภาพดีและแข็งแรงไปอีกยาวนาน

 

สนับสนุนเรื่องราวโดย    hoiana เวียดนาม

จริงไหมที่ “การเล่นเกม” ทำให้มีการตัดสินใจที่ดีขึ้น?

จริงไหมที่ “การเล่นเกม” ทำให้มีการตัดสินใจที่ดีขึ้น?

การเล่นเกมเป็นกิจกรรมที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายในทุกช่วงวัย ไม่ว่าจะเป็นเกมบนคอมพิวเตอร์ คอนโซล หรือสมาร์ตโฟน หลายคนอาจมองว่าเกมเป็นเพียงความบันเทิงหรือเป็นสิ่งที่ทำให้เสียเวลา แต่ในความเป็นจริง การเล่นเกมมีประโยชน์ในหลายแง่มุม

โดยเฉพาะในเรื่องของการพัฒนาทักษะการตัดสินใจที่ดีขึ้น ซึ่งเป็นหัวข้อที่มีการศึกษาวิจัยอย่างกว้างขวางและได้รับการยืนยันจากผู้เชี่ยวชาญด้านจิตวิทยาและประสาทวิทยาศาสตร์  

 

เกมช่วยพัฒนาทักษะการตัดสินใจอย่างไร?

  1. การประมวลผลข้อมูลอย่างรวดเร็ว  

   เกมส่วนใหญ่ โดยเฉพาะเกมแนวแอ็กชันหรือเกมวางแผน เช่น First-Person Shooter (FPS) หรือเกมแนวกลยุทธ์ มักต้องการให้ผู้เล่นตัดสินใจอย่างรวดเร็วในสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา

ผู้เล่นต้องสังเกตและวิเคราะห์ข้อมูลจำนวนมาก เช่น การเคลื่อนไหวของศัตรู ทรัพยากรในเกม และการตัดสินใจที่ส่งผลต่อความสำเร็จหรือความล้มเหลวในการเล่นเกม การทำสิ่งนี้ซ้ำๆ ทำให้สมองของผู้เล่นมีความสามารถในการตัดสินใจได้ดีและแม่นยำขึ้นในชีวิตจริง

 

  1. การตัดสินใจจากการคาดการณ์อนาคต  

   เกมวางแผน เช่น เกมแนววางแผนเรียลไทม์  หรือเกมกระดานดิจิทัล  มักต้องอาศัยการคิดวิเคราะห์ล่วงหน้าและวางแผนระยะยาว ผู้เล่นต้องคำนึงถึงผลกระทบจากการกระทำต่างๆ

ซึ่งช่วยเสริมทักษะในการคาดการณ์และตัดสินใจอย่างมีเหตุผลในสถานการณ์ที่ซับซ้อน นอกจากนี้ เกมแนวจำลองสถานการณ์ อย่างเกมบริหารธุรกิจหรือการจัดการทรัพยากร ยังช่วยให้ผู้เล่นพัฒนาทักษะในการแก้ปัญหาเชิงกลยุทธ์อีกด้วย

 

  1. การตัดสินใจแบบมีความเสี่ยง  

   การตัดสินใจในเกมบางครั้งต้องอาศัยความกล้าในการเผชิญความเสี่ยงและเลือกทางที่เหมาะสมที่สุดในเวลาจำกัด ตัวอย่างเช่น เกมแนวผจญภัยหรือเกม RPG (Role-Playing Game)

มักมีสถานการณ์ที่ผู้เล่นต้องเลือกตัวเลือกที่หลากหลาย ซึ่งการตัดสินใจแต่ละครั้งส่งผลต่อเรื่องราวและผลลัพธ์ในเกม การเผชิญกับสถานการณ์เสี่ยงเหล่านี้ซ้ำๆ ทำให้ผู้เล่นมีความมั่นใจในการตัดสินใจมากขึ้นในชีวิตจริง

 

งานวิจัยหลายชิ้นได้พิสูจน์ว่าเกมช่วยเสริมทักษะการตัดสินใจได้จริง ตัวอย่างเช่น การศึกษาของมหาวิทยาลัยโรเชสเตอร์  พบว่า ผู้ที่เล่นเกมแอ็กชันมีการตอบสนองและตัดสินใจในสถานการณ์ที่ต้องใช้ความรวดเร็วได้ดีกว่าผู้ที่ไม่ได้เล่นเกมถึง 25%

นอกจากนี้ยังพบว่าผู้เล่นเกมมีความสามารถในการแยกแยะรายละเอียดและโฟกัสกับข้อมูลสำคัญได้ดีกว่าผู้อื่น

 

การประยุกต์ใช้ในชีวิตจริง

ทักษะการตัดสินใจที่ได้จากการเล่นเกมสามารถนำไปใช้ในชีวิตจริงได้ในหลายด้าน เช่น  

– การทำงาน: คนที่เล่นเกมมักมีทักษะในการจัดการหลายสิ่งในเวลาเดียวกัน และมีไหวพริบในการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้ดี  

– การเรียนรู้: เกมฝึกการคิดเชิงวิเคราะห์และการวางแผน ซึ่งเป็นทักษะสำคัญในการเรียนรู้และทำงานวิจัย  

– การตัดสินใจในชีวิตประจำวัน ผู้ที่เล่นเกมมีความสามารถในการประเมินสถานการณ์และตัดสินใจอย่างชาญฉลาดในสถานการณ์ที่หลากหลาย

 

ได้รับการสนับสนุนโดย    เครื่องช่วยฟังตัดเสียงรบกวน